กรุงเทพฯ: วิลลี่ เดินสวนสนามอย่างเป็นอธิปไตยเช่นวันเก่าเก่า ในงาน ไทยแลนด์ โอเพ็น และได้ชัยชนะเป็นครั้งที่สี่ ของ แชมป์ นักฟันดาบอินเตอร์เนชั่นนัลแห่งประเทศไทย

นักดาบมือ 1. ของไทย ได้ผ่านเข้ารอบแรกของการแข่งขัน ที่มีผู้ลงเข้าร่วมแข่งขันถึง 60 คน จากทั้ง 8 ประเทศ อย่างไม่มีปัญหา เช่นเดียวกันกับ ชาวคาสักเค่นทั้ง 3 คนที่ก็ได้ผ่านเข้ารอบ คนแรกมาพร้อมๆกันกับ วิลลี่ และที่นั่น เดวิด วี เร็น ชาน ก็ได้ตกเป็นเหยื่อรายแรก ของ ชาวไทย โคธนี่ ได้ส่ง ชาวสิงค์โปร ไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี ด้วยคะแนน 15:2 แต้ม

คล้ายกับ ชาวคาสักเค่น ที่ก็ได้ฟาดฟันจนเข้าไปถึงที่ตรงนั้น หาก วิลลี่ ต้องการจะชนะ เขาจะต้องส่งผู้อาศัยอยู่แทบริมทะเล ไปอยู่ทะเลทราย อีราลี่ ไทเลนชีฟ ได้มารับเอาบทเรียน จาก นักศึกษา ของ กรุงเทพฯ ไปด้วยคะแนน 2:15 จึงเหลืออยู่อีกแค่สองคน ครูฝึก ชาวคาสักเค่น ได้ส่งลูกศิษย์ ชื่อ อาวเกนี่ ฟรอโลฟ เข้ามาต้าน วิลลี่ ทันที ยุทธวิธีของเขาคือ การฟันสั้นๆ ยั่วแหย่ จนทำให้ วิลลี่ ต้องหยิบเอาการกระโดดแบบพังพอนออกมาใช้ แล้วหลบหลีก และฟันกลับ ยุทธวิธีนี้ในช่วงแรกๆนั้นก็ทำเอาเจ้าพังพอนกระโดดคว้าน้ำเหลวอยู่บ่อยๆ แต่ วิลลี่ ก็ได้แสดงให้เห็นว่าวันนั้นเขาสามารถที่จะ ต้านทานการจู่โจมของ ชาวคาสักเค่น ได้อย่างสวยงาม และเอาชนะ ฟรอโลฟ ไป ด้วยคะแนน 15:13 แต้ม จึงทำให้เหลืออยู่อีกแค่เพียงหนึ่งคน

จากการพ่ายแพ้ของคนจากประเทศของเขา จึงทำให้ โซลคาสเบก เทอลี่เบโคฟ นั้นเกร็งและไม่สามารถทำให้ วิลลี่ ยุ่งยากใจกับช่วงการแข่งขันในรอบสุดท้ายได้เลย ภายใต้เสียงการปรบมือของ ชาวไทยร่วม 100 คน วิลลี่ ได้ฟาดฟันกับคู่ต่อสู้ ชาวคาสักเค่น และชนะคะแนนไปด้วย 15:5 คว้าเหรียญทองเหรียญแรก ให้กับประเทศไทย เสียงการแสดงความดีใจ ใน ศูนย์กีฬา กรุงเทพฯเซ็นเตอร์ ดังแบบไม่หยุด ชัยชนะ ของ โคธนี่ ครั้งนี้ ก็มีความสำคัญกับ พี่ชาย สมคิด พงษ์อยู่ ของเขาเป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถแสดงให้เห็นถึงการเป็น โค๊ด ที่มีคุณภาพของเขาด้วย นานพอสมควรที่เขาต้องทนยอมรับผลกระทบ และต้องพยายามฝึกซ้อม ให้ลูกศิษย์ของเขาได้กลับมาอีกครั้ง ส่วนลูกศิษย์รุ่นใหม่ๆของเขานั้น ก็ลงเข้าร่วมการแข่งขันแบบผ่านไปได้ และเข้ารอบแรกกันมาทุกคน

ความมีชัย ของ วิลลี่ ในครั้งนี้จะมีค่ามากแค่ไหนนั้น จะได้รู้กันใน วันเสาร์ วันอาทิตย์ ที่จะถึงนี้ เมื่อหัวกะทิของโลกจะมาพบปะกัน ในงาน ฟันดาบ เวิร์ลคัพ ครั้งที่ 1. ใน กรุงเทพฯ สิ่งที่คนไทยควรต้องเรียนรู้ ในการจัดการอีกอย่างก็คือ การรับประทานอาหาร แบบ ในงาน ไทย โอเพ็น นั้น ทาง เอฟไออี คงไม่ยอมรับแน่ ถึงแม้การแข่งขันจะดูรื่นรมย์ ที่ได้มี กลุ่มปิกนิค มานั่งดูอยู่ระหว่าง ช่องสนามการแข่งขัน แต่ วันเสาร์ - วันอาทิตย์นี้นั้น ควรจะจัดให้มีระเบียบ วินัย และจัดให้มีความห่างออกไปบ้าง เป็นสิ่งหนึ่งที่ ชาวไทยผู้ชอบต้อนรับไม่ใส่ใจแต่ว่ามันจำเป็นมาก ถ้าในอนาคตเขาไม่ต้องการจะไปร่วมลงแข่งขันกับ นักดาบของโรงละครสัตว์นานาชาติ