สมคิด พงษ์อยู่


ประวัติส่วนตัวโดยสังเขป

Somkhit Phongyooสมคิด พงษ์อยู่ เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ . ศ 2520 ที่จังหวัด กาญจนบุรี / ประเทศไทย (สะพานข้ามแม่น้ำแคว) และเติบโตแบบค่อนข้างอยากจนมากับ ย่าของเขา เมื่อตอนที่เขามีอายุได้เพียง 2 ขวบ แม่ของเขาได้เสียชีวิตลงด้วยสาเหตุในตอนคลอดบุตรอีกคน และเมื่อ น้า/ป้า ลา-ลัด ของเขาได้แต่งงาน ใน พ .

ศ 2525 กับ นายพันตรี จากเยอรมัน ตอนหลัง นักสื่อข่าว อีริค โคธนี่ แล้วนั้น สมคิด ซึ่งตอนนั้นมีอายุแค่เพียง 6 ขวบ ก็ได้ติดตามน้าของเขามาประเทศเยอรมัน ในฐานะ ลูกในอุปการะ และได้เติบโตมาพร้อมๆกับ วีรเดช ลูกพี่ลูกน้อง เขาได้เข้าเรียนประถมศึกษาที่ โอฟฟิงเกนร์ เมือง สตู๊ดกาดร์ และ ไปจบประถมศึกษา ที่ใน เมืองโค๊บบริ๊นส์ พ .

ศ 2533 ชาวไทยคนนี้ ได้เข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนมัธยมศึกษา แมค-ฟอน-ลาวเอ่ เขาได้เรียนจบอาชีวะศึกษา จากโรงเรียนอาชีวะศึกษา ที่ คาร์ดฮาวร์ เส้นทางสายครูผู้ฝึกซ้อมจึ่งเริ่มต้นจากที่นี่ สมคิด ชอบเล่น บาสเก็ตบอล และ ฟุตบอล


พัฒนาการด้านกีฬา

สมคิด ได้เริ่มเข้ามา เล่นกีฬาฟันดาบ เมื่ออายุ 13 ปี ซึ่งความจริงก็ถือว่าช้ามากและเขาก็ได้เริ่มต้นอย่างเพียรพยายาม เนื่องจากการ ที่เขาเป็น ชาวไทย จึงถูกจำกัดออก จากอันดับรายชื่อของเยอรมัน ทำให้เขาหมดสนุกในการที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน การฝึกฝนฟันดาบของเขาจึงทำไปแบบเล่นๆ และ จึงได้เริ่มต้น เป็นครูผู้ฝึกให้กับ เด็กรุ่นหลัง ของ CTG นอกจากนั้น สมคิด ยังหันไปเล่น บาสเก็ตบอล และ ฟุตบอล อีกด้วย

เมื่อเขาได้เข้าร่วม ลงแข่งขัน พ . ศ 2537 ในงาน ไทยแลนด์ โอเพ็นร์ แอ๊คทีฟ ครั้งที่ 3 เขาเป็นชาวไทย ที่ทำได้ดีที่สุด ลงต่อสู้ กับ เกาหลี และ ฮังการี่ และได้อยู่ในอันดับ ที่ 9 และได้เริ่มเป็นตัวแทน ลงแข่งขันให้กับทีมชาติไทย ในงาน ซี-เกมส์ จึงทำให้เขาได้เริ่มที่ จะเข้ามาร่วม ลงแข่งขันกีฬาอีกครั้ง เป็นที่หน้าแปลกใจอย่างยิ่งที่เขาสามารถได้ชัยชนะจนถึงอันดับสูง ของ นานาชาติ ได้แบบรวดเร็ว แต่กับพลาดโอกาสเหมาะไปนิด ในงานเอเชี่ยนเกมส์ปีนั้น เมื่อครูผู้ฝึกซ้อม อีเบอร์ฮาดร์ เมล ชาวเยอรมันของเขาล้มป่วยลง ถึงขั้นกับเป็นอันตรายต่อชีวิต สมคิดจึงต้องรับหน้าที่แทน และ เป็นผู้นำฝึกซ้อม ให้ลูกศิษย์ ปีเตอร์ คูลาสซ่า จนได้เป็นแชมป์ของเยอรมัน และหลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนต่อมาตัวเขาเองก็ชนะเลิศ ได้เป็นแชมป์ของไทย จากการเริ่มแข่งหลายๆครั้ง ใน พ . ศ 2540 เขาก็สามารถได้เข้าไปร่วมการแข่งขัน เวิร์ลคัพ รุ่นเล็ก ที่เมือง โลโกรโน่ เขาได้กระโดดเข้าไปมีรายชื่อในระดับทีมโลก รุ่นเล็ก และได้ไปลงแข่งขัน นานาชาติ รุ่นเล็ก ที่ ประเทศ สเปน เมือง ทีนีรีฟฟา และได้เข้ามาเป็นสมาชิกของทีมชาติไทยอีกด้วย พ . ศ 2541 เขาพร้อมทั้ง ทีมชาติไทยได้ชนะเลิศเหรียญทอง ในการแข่งขัน เอเชี่ยนเกมส์ แต่หลังการแข่งขันที่ผลตัดไม่ค่อยดี ใน การแข่งงาน เอเชีย ที่ กรุงเทพฯ เขาก็หมดสนุกกับการลงเข้าร่วมแข่งขันกีฬา และ ดำเนินทางไปในด้าน งานครูผู้ฝึกของเขาต่อ

และเมื่อครูผู้ฝึกซ้อม อีเบอร์ฮาดร์ เมล นักกรีฑาที่ดี ได้ลาออกไป อยู่พงษ์ จึงต้องรับหน้าที่ ที่ยากลำบากมา เป็นครูผู้ฝึกซ้อมให้ นักฟันดาบระดับทีมโลก และ ผู้ชนะเลิศเหรียญทองแดง เอาไว้ ผลงานการเป็นครูผู้ฝึกซ้อมของเขา ส่งผลดีที่นับได้ทันที วิลลี่ โคธนี่ ได้เข้ามาอยู่ในอันดับที่สูงของทีมชาติเยอรมัน และ ได้ เป็นอันดับที่ 3 ของทีมโลก นักเรียนรุ่นเล็กของเขาอีกสองคนได้เป็นแชมป์ ของประเทศ น้องสาว มานูเอลล่า ชนะเลิศ ในระดับนักเรียน ทั้งสองครั้งในการแข่งขันกีฬา เมื่อ วีรเดช โคธนี่ น้องชายของเขาเดินทางกลับประเทศไทย สมคิด จึงได้ตามกลับมา ที่กรุงเทพฯ ด้วย เขาต้องการจะสร้าง ดารานักฟันดาบคนนี้ ให้เป็นนักฟันดาบฝีมือดีของทีมชาติไทย แผนผังการฝึกซ้อมของเขานั้นได้ลงอยู่ใน โฮมเพจนี้ และ จะมีการเพิ่มเติมให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพื่อที่จะเป็นหลักการขั้นพื้นฐาน สำหรับ คนไทยอื่นๆ ที่ไม่มีโอกาส ได้เข้าฝึกฝนแบบทันสมัย สมคิด ยินดีจะให้คำแนะนำและอธิบายเป็นการส่วนตัว ถึงหลักการ การฝึกซ้อมของเขาอีกด้วย